[CR] Tokyo Summer 2016 เที่ยวโตเกียวหน้าร้อนไม่แย่อย่างที่คิด

สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเขียนกระทู้พันทิพย์ หลังจากอ่านกระทู้ของเพื่อนๆพี่ๆมานาน วันนี้ผมเลยอยากจะลองถ่ายทอดความรู้สึกความประทับใจที่ผมได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก,การเที่ยวนอกประเทศครั้งแรก ผ่านการเขียนกระทู้ครั้งแรกของผมครับ ฟังดู งงๆ อิอิ

          เริ่มเลยนะครับ ขอเกริ่นก่อนว่าชีวิตนี้ผมไม่เคยมีความคิดอยากจะเที่ยวต่างประเทศหรืออยากจะไปญี่ปุ่นแม้กระทั่งเที่ยวในไทยผมก็ไม่ได้อยากจะไปเที่ยวอะไรขนาดนั้น แต่ก็มีไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ความอยากเที่ยวของผมเนี่ยมันเกิดมาจาก 2 สิ่งครับ สิ่งแรกคือ เมื่อผมซื้อกล้อง DSLR ตัวที่ 2 ตัวนี้ผมหมายมั้นปั้นมือว่าผมจะจริงจังกับการถ่ายรูป ผมอยากถ่ายรูปสวยๆ ผมจะต้องถ่ายให้ได้ ผมเลยเสียเงินซื้อกล้องมา และนั่นมันก็คือจุดเริ่มแรกของการที่อยากจะแบกกล้องออกไปพบกับสิ่งต่างๆ แล้วก็เก็บเอาความทรงจำที่ไม่อาจจะย้อนกลับไปได้ในความเป็นจริงใส่ไว้ในภาพถ่ายซะ สิ่งทีสอง คือ Anime เรื่อง Onepiece คือสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะไปญี่ปุ่นขึ้นมาพอดู Onepiece ทีไรก็เกิดแรงฮึกเหิมอยากจะไปๆ ให้ได้ อยากจะไป Tokyo Onepiece Tower อะไรงี้ ในเมื่อผมอยากจะไปให้ได้ผมก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองหลังจากศึกษาทั้งดูคลิปอ่านกระทู้รีวิวต่างๆ ผมก็เกิดความผูกพันกับประเทศนี้ขึ้นมา 5555555+ ไม่ใช่แค่เรื่องของ Anime อีกต่อไป แต่ในครั้งแรกที่ผมตัดสินใจหาข้อมูลการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองเมื่อผมเห็นแผนที่รถไฟของญี่ปุ่น ผมก็พูดกับตัวเองในใจเบาๆว่ากรูคงไปไม่ได้หรอกแผนที่รถไฟห่าไรงงชิหายเลย 555555+ แต่ผมก็พยายามทำความเข้าใจกับมันดูมันไปเรื่อยๆ ดูไปดูมา ผมใช้เวลาดูข้อมูลต่างๆอยู่เกือบๆ 6 เดือน จึงตัดสินใจว่าเราจะลองไปเที่ยวในโตเกียว ดูก่อนเพราะเราเป็นมือใหม่เอาง่ายๆ ก่อน จึงตัดสินใจจองตั๋วไปโตเกียวโดยเดินทางวันที่ 22-27 กรกฎาคม 2016
ฝากติดตามเพจที่พึ่งทำและทำเพราะชอบเฉยๆ จริงๆ หน่อยนะครับ ^^   https://www.facebook.com/bringcamerafortravel/




เตรียมตัวก่อนออกเดินทางครับ ^_^

Day 1


          และแล้วก็ถึงวันที่ต้องไปจริงๆ บอกตามตรงครับรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันเพราะเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกและบวกกับความกลัวต่างๆนาๆที่เราเคยดูเคยอ่านจากสิ่งต่างๆ ทำให้เราคิดเยอะเหมือนกันว่าจะทำได้มั้ย แต่ผมอยากจะบอกว่าบางสิ่งที่เราคิดว่ายากแต่พอไปถึงจริงๆมันไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดเลยครับ เริ่มวันแรกเลยครับ ตื่นแต่เช้าเรียก Grap Taxi ตั้งแต่ 7 โมงเช้าครับเพราะคิดแล้วว่าเอารถไปจอดไม่น่าจะคุ้มโดนค่าจอดวันละ 250 จ่ายค่า Taxi ไปกลับยังไม่ถึงพันเลย เลยตัดสินใจเรียก Grap เลยครับ ไปถึงที่ดอนเมืองอาคาร 1 ก็ประมาณ 8 โมงกว่า รอเช็คอินสักแปปพอถึงเวลาเช็คอินก็ไปเช็คอินตามปกติครับ โหลดกระเป๋าให้เรียบร้อย หลังจากนั้นกรอกใบขาออกนอกประเทศให้เรียบร้อยเดินไปหา ตม. เสดแล้วเราก็เดินไปหาอะไรทานในเกตได้ตามอัธยาศัยครับ 55555+ หลังจากฆ่าเวลาด้วยการหาอะไรทานแล้วก็ถึงเวลาที่เครื่องออกจากดอนเมือง เวลา 10.45 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ช.มถึงที่ นาริตะ ประมาณ 19.00 น ตามเวลาที่ญี่ปุ่นครับ เมื่อมาถึงสนามบินนาริตะ เราก็เดินไป ตม. ตามป้ายที่เค้าเขียนไว้ครับ เมื่อมาถึงก็พบคิวที่ยาวมากเพราะวันนี้ เครื่องมาลงเยอะจริงๆ แต่ใช้เวลาไม่นานมากในการผ่านตรงจุด ตม. ครับเพราะที่นี่เค้ามีช่องเปิดหลายช่อง ขอบอกนิดครับว่า ตม. นี่เป็นสิ่งที่แฟนผมกับผมนี่กังวลมาก เพราะกลัวเค้าถามอะไรแล้วเราฟังไม่รู้เรื่องเพราะภาษาอังกฤษผมก็ไม่ได้แข็งแรงอะไร 55555+ แต่พอเอาเข้าจริง ตม. ใจดีมาก แถมสวยด้วย อิอิอิอิ ไม่ถงไม่ถามอะไรสักคำผ่านสบายๆ ครับ พอผ่าน ตม. มาก็ลงบรรไดเลื่อนมารับกระเป๋า ต่อมาก็มาตรงศุลกากร อ่ะครับ เดินเข้าไป2 คนพร้อมกัน มีถามนิดหน่อยว่า ใช้กระเป๋าใบเดียวกันใช่มั้ย เราก็ตอบใช่ ก็แค่นั้นแล้วก็ลากผ่านไปชิลๆ 55555+


          ออกมาจาก ตม. และ กรมศุล จะเจอหน้าตาประมาณนี้ครับ (ต้องขออภัยด้วยจริงๆครับเพราะตอนนั้นใช้กล้องเลนส์ 35mm เลยได้ภาพที่มุมไม่กว้างเลยเห็นรอบๆได้แค่นี้) เมื่อเจอหน้าตาแบบนี้แล้วก็เลี้ยวซ้ายไปเลยครับ เพื่อลงบันไดเลื่อน ลงไปที่ เราจะไปแลกตั๋วรถไฟเข้าโตเกียวกันครับ ต้องบอกก่อนครับที่ผมต้องแลกตั๋วรถไฟเพราะผมซื้อตั๋ว Keisei Skyliner + Subway 72 Hour จาก H.I.S มาจากที่ไทยครับ ซึ่งผมจะต้องไปแลกตั๋วรถไฟเป็นตั๋วจริงก่อนถึงจะนำไปใช้ได้ครับ ซึ่งต้องทำการเลือกที่นั่งและเวลาในการใช้ Skyliner เข้าโตเกียวขาไปขาเดียวครับ ส่วนขากลับเดียวเราค่อยไปจองที่นั่งกันที่สถานี Keisei-Ueno ในวันกลับครับ ขอบอกก่อนนะครับว่าทริปนี้ส่วนใหญ่เราจะเดินทางกันด้วยรถไฟใต้ดินครับ เพราะสะดวกและเข้าถึงแทบจะทุกย่านท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ครับ จะมีใช้รถไฟ JR อยู่บ้างในการไป Odaiba และ Tokyo Disneyland ครับ


ทางลงบันไดเลื่อนไปแลกตั๋วรถไฟครับ



เมื่อลงบันไดเลื่อนมาหันขวามือแล้วเดินตรงเข้าไปมองขวามือจะเป็นเค้าเตอร์ขายตั๋วของ Keisei และ Narita Express ครับ ตาม 2 ภาพด้านบน


เมื่อมองทางซ้ายมือเราก็จะเจอกับ Keisei Information Center ที่นี่แหละครับที่เราจะแลกตั๋วจริง และ ก็จองที่นั่งเข้าโตเกียวกันครับ


แล้วเราก็ได้ตั๋ว Skyliner เพื่อเข้าโตเกียวกันแล้วครับโดยจะได้ตั๋ว 2 ชุดคือ ตั๋ว Skyliner อย่างในภาพด้านบน แล้วก็จะได้ตั๋ว Tokyo Subway 72 Hour มาอีก1ใบครับ เช็คตู้และที่นั่งของเราให้เรียบร้อยถูกต้องและเตรียมตัวเข้าโตเกียวกันเลยครับโดยจุดหมายปลายทางคือ ผมจะต้องไปลง Keisei Ueno Station เพื่อต่อ subway ไปยังโรงแรมที่พัก ย่าน Nihonbashi ครับ


ที่พื้นจะมีบอกอยู่ครับว่าตรงนี้รถไฟจะจอดตรงกับตู้ไหนอย่างเช่น ในบัตรผมบอกว่าผมจะต้องนั่ง car no.4 ผมก็จะมายืนรอตรงพื้น car no.4 ครับ


ด้านใน Skyliner ครับ


มาถึง Keisei-ueno station แล้วครับ ใช้เวลาเดินทางจาก สนามบินนาริตะมาถึง Keisei-ueno ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงครับ ถือว่าเร็วมากๆเลย เมื่อมาถึงสถานี Keisei-ueno แล้วขั้นต่อไปเราก็ต้องหาทางที่จะไปยัง subway ครับเพื่อต่อรถไฟใต้ดินไปยังที่พักของเราครับ วิธีการหาทางไปสถานี subway คือ อ่านตามป้ายไปเรื่อยๆครับ ป้ายบอกไว้อย่างละเอียดจริงๆ เดินตามไปไม่หลงแน่นอนครับเดินตามป้ายไปเรื่อยๆจะมีทางเชื่อมอย่างภาพด้านบน ก็จะเชื่อไปยังสาถนี รถไฟใต้ดิน สถานี Ueno ครับ คราวนี้เราก็จะใช้ตัว Subway pass แบบ 72 ชม. ที่เราซื้อมาคู่กับ Skyliner เลยครับ สะดวกมากๆ


สถานีรถไฟใต้ดิน สถานี Ueno ครับ



เดินทางมาถึงย่าน Nihonbashi แล้วครับ ที่พักของเรานั่นเอง แต่โรงแรมนี้ไม่ได้ตั้งอยู่กลางย่าน Nihonbashi นะครับ


ในที่สุดก็มาถึงโรงแรมแล้วครับโรงแรมนี้ชื่อ Hotel Horidome Villa ฟร้อนที่นี่เปิดตลอด 24 ชม. ครับ ผมมาถึงที่โรงแรมนี่ก็ประมาณเกือบๆ 4 ทุ่มได้ครับ สภาพโรงแรมดูดีเลยทีเดียวครับภายในห้องก็สะอาดดีครับแต่ห้องแอบเล็กไปหน่อยตามสไตล์ห้องพักญี่ปุ่นครับ พนักงานต้อนรับดีครับพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ผมพูดไม่ค่อยได้ 55555+ แล้วเรื่องของการเดินทางที่นี่สะดวกมากครับเพราะใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินถึง 2 สถานีครับ นั่นคือสถานี Kodemmacho กับ Ningyocho ทั้ง 2 สถานีเดินจากโรงแรมประมาณ 500 เมตร ครับ สะดวกมากมาย แล้วละแวกนั้นก็มีทั้ง เซเว่น,แฟมิลี่,แล้วก็ร้านอาหารอีกหลายร้านเลยครับ ถือว่าโรงแรมนี้สะดวกจริงๆ






เมื่อเช็คอินเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเราก็ต้องออกไปหาอะไรกินกันสักหน่อยครับร้านนี้อยู่แถวๆโรงแรมเลยครับต้องเดินลงไปที่ชั้นใต้ดินครับจะเจอร้านนี้ ผมจำชื่อร้านไม่ได้แล้วรูปก็ไม่ได้ถ่ายมาด้วยต้องขออภัยจริงๆครับแต่ร้านนี้เป็นร้านคล้ายๆร้านนั่งดื่มด้วยเพราะวันนั้นเป็นวันศุกร์มีพนักงานออฟฟิศมานั่งดื่มสังสรรค์กันค่อนข้างพอสมควรเลยครับ รสชาติอาหารที่นี่ถือว่าโอเคใช้ได้เลยครับคนดูแลร้านนิสัยดีมากเลยครับไม่ใช่คนญี่ปุ่นหน้าเหมือนออกไปทางคนอินเดียเค้าก็ถามผมว่ามาจากไหนผมบอกไปมาจาก ไทยแลน แล้วเค้าก็บอกประเทศของเค้ามา แต่ผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เค้าบอกมาประมาณว่าประเทศ มา-ละ-ดิฟ อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ 55555+


เมื่อเราทานของคาวเสร็จเราก็ต้องไปหาน้ำและของหวานทานกันที่แฟมิลี่ต่อครับ ผมก็ซื้อน้ำที่เคยเห็นๆในรีวิวมา จะได้ลองบ้างว่าเป็นยังไง เมื่อเราเพลิดเพลินกับอาหารการกินที่เราซื้อมาเสร็จแล้วก็ต้องเป็นการพักผ่อนชาร์จแบตอุปกรณ์ต่างๆเพื่อที่จะออกไปผจญภัยแบบเต็มๆ ของจริงกันในวันพรุ่งนี้ครับ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง โตเกียว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่